Right Up Corner

ad left side

วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2554

เทศกาลโต๊ะจีนลิง ลพบุรี ไทย Thailand





เทศกาลโต๊ะจีนลิง ได้จัดว่า เป็น 1 ใน 10 ของเทศกาลที่แปลกที่สุดในโลก และเป็นเทศกาลงานประเพณีที่สำคัญของจังหวัดลพบุรี

การจัดงานเลี้ยง "โต๊ ะจีนลิง" ของ จังหวัดลพบุรี เริ่มมีขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2532 สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดลพบุรีจนโด่งดังไปทั่วโลก และถูกจัดเข้าปฏิทินงานประจำปีของจังหวัด งานดังกล่าวเริ่มขึ้นจากการลงแรงกายแรงความความคิดของ นายยงยุทธ กิจวัฒนานุสนธิ์ ประธาน บริษัท ลพบุรีอินน์กรุ๊ป และดำเนินการต่อเนื่องจนกระทั่งปัจจุบันขึ้นสู่ปีที่ 14 ลิงบริเวณศาลพระกาฬ พระปรางค์สามยอด จะแยกพวกกันกับลิงบริเวณตึก สภาพของ ลิงศาลพระกาฬ ค่อนข้างได้รับการเลี้ยงดูอย่างอิ่มหมีพลีมัน เนื่องจากมีผู้คนที่มากราบไหว้สักการะศาลฯ เลี้ยงดู ขณะที่ ลิงพระปรางค์สามยอด และลิงตึกที่มีอยู่ประมาณ 3,000 ตัว มีความเป็นอยู่ที่ลำบาก บางมื้อก็กินไม่อิ่ม
ในการจัดงานเทศกาลในครังนี้ก็เพื่อให้ลิงซึ่ง อาศัยอยู่บริเวณ ศาลพระกาฬ พระปรางค์สามยอด และตามตึกได้กินอิ่มอย่างเป็นทางการปีละครั้ง หลังจากที่มนุษย์เข้ามาสร้างเมืองจนลิงเจ้าถิ่นต้องกลายเป็นเพียงผู้อาศัยไป ทั้งนี้ สำหรับเทศกาลโต๊ะจีนลิง จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเลี้ยงบรรดาลิงที่มาอาศัยอยู่ในบริเวณศาลพระกาฬ ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่า เป็นศิษย์ของเจ้าพ่อพระกาฬ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัด บรรดาลิงเหล่านี้ จึงได้รับความช่วยเหลือให้อาหารจากชาวบ้านเป็นอย่างดีเรื่อยมา และเทศกาลโต๊ะจีนลิงนี้ ยังเป็นอีกหนึ่งในมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ส่วนราชการ และพ่อค้าประชาชน ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อหวังดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ เดินทางมาเยี่ยมชม ความน่ารักของลิงและคนที่อยู่ร่วมกันมายาวนานโดยเฉพาะชาวต่างชาติที่ให้ความ สนใจเป็นอย่างมาก เพราะว่าเป็นเทศกาลที่แปลกเทศกางหนึ่งที่เราหาชมได้ยากมาก และสื่อชั้นนำของต่างชาติยังนำไปเผยแพร่ต่อสายตาชาวโลกจนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอยู่ในขณะนี้
งานเลี้ยงโต๊ะจีนลิง จัดขึ้นทุกวันอาทิตย์ สัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤศจิกายน ณ บริเวณศาลพระกาฬ และพระปรางค์สามยอด มีฝูงลิงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นที่สนใจสำหรับนักท่องเที่ยว บรรดานักท่องเที่ยวที่มานมัสการเจ้าพ่อพระกาฬ มักจะนำอาหารและผลไม้มาเลี้ยงลิง ทำให้ลิงมีความเชื่องและคุ้นเคยกับนักท่องเที่ยวมากขึ้น ในงานมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย


แผนที่

View เทศกาลโต๊ะจีนลิง in a larger map

วันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2554

ถ้ำพระยานคร ประจวบคีรีขันธ์ ไทย Thailand




ถ้ำพระยานคร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเพียงไม่กี่แห่งที่สามารถเที่ยวได้ทั้ง ทะเล ถ้ำ และปีนเขาทดสอบความฟิต  ถ้ำมีพลับพลาที่ประทับสวยเมื่อต้องแสงตะวัน ประวัติแต่โบราณได้ชื่อนี้เพราะเจ้าพระยานครเป็นผู้ค้นพบ ในครั้งร่วมเสด็จประพาสในรัชกาลที่ 5  ต่อมาพระมหากษัตริย์หลายพระองค์ ก็ทรงเสด็จพระราชดำเนินมา ดังนั้น ถ้ำพระยานครจึงเป็นสถานที่พิเศษกว่าที่ใดๆ ตรงที่มีพระมหากษัตริษย์ของเราชาวไทย เคยเสด็จประพาสที่นี่ถึงสามพระองค์ด้วยกัน ซึ่งย่อมแสดงให้เห็นถึงความไม่ธรรมดาของถ้ำพระยานครแห่งนี้น  ใครจะเชื่อว่ายามพระอาทิตย์ส่องแสงผ่านปล่องเขา พลับพลาที่ประทับเรืองรองงดงามยิ่งกว่าใช้ไฟดวงใด
อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด
ถ้ำพระยานคร ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีสภาพภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นเขาหินปูนยอดแหลม และสูงชันริมชายฝั่งทะเลของอำเภอปราณบุรี และอำเภอกุยบุรีมีเนื้อที่ประมาณ 61,300 ไร่ จัดเป็นอุทยานแห่งชาติประเภทชายฝั่ง ผสมผสานหมู่เกาะในทะเลแห่งแรกของประเทศไทย  หินปูนที่สึกกร่อนเพราะกาลเวลา จึงก่อให้เกิดเถื่อนถ้ำมากมายขึ้น เช่น ถ้ำไทรและถ้ำแก้ว ฯลฯ อีกทั้งมีจุดชมวิวเขาแดง ความสูงราว 322 เมตร เหมาะเดินขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้น นอกจากนี้ บริเวณพื้นที่โดยรอบเขาสามร้อยยอด ยังมีสภาพเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่สำคัญยิ่งของประเทศ นับเป็นแหล่งรวมพรรณไม้น้ำ สัตว์น้ำ สัตว์ป่า ตลอดจนนกอีกนับร้อยชนิด เหมาะสำหรับกิจกรรม พายเรือคายัก เดินป่า ดูนก และอื่นๆ อีกมากมาย
ช่วงเวลาท่องเที่ยวที่แนะนำ
ชมลำแสงยามเที่ยงลอดช่องเพดานลงสู่พระที่นั่งฯ ช่วงเวลาที่สวยที่สุดคือ 10.30-11.30 น. สามารถเที่ยวได้ทั้งปี แต่ฤดูที่แนะนำให้ไปที่ยวชม คือช่วงฤดูหนาวราวเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม

แผนที่

View ถ้ำพระยานคร in a larger map

ค้างคาวร้อยล้าน ค้างคาว ออกหากิน ราชบุรี ไทย Thailand






"ค้างคาวร้อยล้าน" "ค้างคาวออกหากิน" พลบค่ำของทุกวัน ประมาณ 18.00 น. ค้างคาวจะเริ่มบินออกจากถ้ำเพื่อออกหากิน ประมาณ 3 ชั่วโมง ค้างคาวถึงจะออกจากถ้ำหมด โดยจะบินต่อเนื่องกันเป็นสายยาวมุ่งหน้าไปยังทะเล จังหวัดสมุทรสาคร และจะกลับมาเข้าถ้ำประมาณ ตี 3 - ตี 5

เวลาประมาณ 18.00 น. ของทุกวัน ค้างคาวนับ 100 ล้านตัวจะพากันบินออกจากถ้ำไปหากินเป็นสายดำมืดสุดสายตา เป็นที่ชื่นชมแก่นักท่องเที่ยวที่ได้มาชมเป็นอย่างยิ่ง

ข้อมูล
เขาช่องพราน ลักษณะเป็นถ้ำที่เกิดจากหินปูน สูงจากพื้น 30 เมตร ปากถ้ำกว้าง 2 เมตร มีลักษณะคล้ายห้องโถงขนาดใหญ่ กว้าง ุ60 เมตร ยาว 100 เมตร ลึกประมาณ 60 เมตร มีเนื้อที่ประมาณ 77 ไร่ ลึกลงไปจนถึงใจกลางถ้ำ พบรอยพระพุทธบาท และที่วัดยังยังมี ถ้ำพระนอน ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปมากกว่า 100 องค์ ที่สำคัญคือ พระพุทธรูปปางไสยาสน์องค์ใหญ่มีความยาวถึง 9 เมตรเศษ สูง 1 เมตรเศษ นักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นสู่บนยอดเขาช่องพราน เพื่อนมัสการพระบรมธาตุบวรวิสุทธิเจดีย์ และด้านบนยอดเขานี้นักท่องเที่ยว ยังสามารถชมทิวทัศน์อันกว้างไกลจาก และชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าบนจุดชมวิวของยอดเขานี้ และจุดนี้ยังเป็นจุดชมค้างคาวที่ออกมาหากินจากปากถ้ำ อีกด้วย สถานที่แห่งนี้อยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของเทศบาลตำบลเขาขวาง ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 2 ต.เตาปูน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
วัดเขาช่องพราน
มีปรากฎการณ์แห่งความมหัศจรรย์ ที่เกิดขึ้นในบริเวณวัดเขาช่องพราน ที่มีผู้คนพบเห็นในทุก ๆ วัน เมื่ออาทิตย์ใกล้อัสดงบรรดาค้างคาวหนูจำนวนมหาศาลราวร้อยล้านตัว เคลื่อนตัวเป็นสายไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เป็นเวลากว่า 2 ชม. และจะกลับมายังบริเวณถ้ำแห่งนี้ก่อนอรุณรุ่ง เป็นภาพอันน่าประทับใจ ของปรากฎการณ์ มหัศจรรย์ทางธรรมชาติ เป็นอย่างยิ่ง ทางวัดเขาช่องพราน จึงได้ร่วมกันปรับปรุงสถานที่ให้สวยงาม และเปิดให้ประชาชนเข้าเยี่ยมชมค้างคาว ในตอนเย็นตั้งแต่เวลา 18.00 น. ที่วัดเขาช่องพรานนี้มีลานจอดรถกว้างขวาง และมีร้านอาหาร ไว้บริการผู้ที่เข้ามาชมด้วยครับ (ยังมีมูลค้างคาวที่เขานำมาจำหน่ายก็มีนะครับ ถ้าสนใจ)

แผนที่

View ค้างคาวร้อยล้าน in a larger map

วันศุกร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2554

สะพานมีโย Millau ฝรั่งเศส France





สะพานมีโย เป็นสะพานเคเบิลที่เชื่อมหุบเขาแม่น้ำทาร์นไม่ไกลจากเมืองมีโยทางตอนใต้ของฝรั่งเศส สะพานมีโยที่ออกแบบโดยสถาปนิกด้านวิศวกรรมโครงสร้างชาวฝรั่งเศสมีแชล วีร์ลอเฌอ และสถาปนิกชาวอังกฤษนอร์มัน ฟอสเตอร์เป็นสะพานที่สูงที่สุดในโลกที่เสาที่สูงที่สุดสูง 343.0 เมตร (1,125 ฟุต) — ที่สูงกว่าหอไอเฟลเพียงเล็กน้อย และเตี้ยกว่าตึกเอ็มไพร์สเตตเพียง 37 เมตร (121 ฟุต) สะพานนี้เป็นส่วนหนึ่งของทางหลวง A75 - ทางหลวง A71 ที่เชื่อมระหว่างปารีสกับมงแปลีเย ค่าก่อสร้างสะพานทั้งหมดตกประมาณ 400 ล้านยูโร สะพานเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 2004 อีกสองวันหลังจากนั้นก็เปิดใช้ในการจราจร ในปี ค.ศ. 2006 สะพานมีโยได้รับรางวัลโครงสร้างดีเด่นจากสมาคมสะพานและวิศวกรรมโครงสร้างนานาชาติ สาเหตุที่ก่อสร้างก็คือเพื่อแก้ปัญหาการจราจรที่ติดขัดในเส้นทางจากปารีสไปสเปนในช่วงฤดูร้อนซึ่งเป็นวันหยุดที่รถติดขัดมาก ทำให้จำเป็นต้องมีการสร้างสะพานเพื่อข้ามหุบเขาดังกล่าว แน่นอนตอนแรกที่สร้างก็มีหลายฝ่ายคัดค้านด้วยเหตุผลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการไม่คุ้ม ปัญหาทางเทคนิคที่สะพานสร้างบนหินดินดาน จะไม่คงทนในระยะยาว ไม่สามารถแก้ปัญหาตรงจราจรได้ ฯลฯ

แผนที่

View สะพานมีโย Millau in a larger map

ลิฟท์แก้วไป่หลงเทียนที Bailong elevator จีน China







ลิฟท์แก้วไป่หลงเทียนที เป็นลิฟท์แปลกๆ ตั้งอยู่ข้างข้างหน้าผาของภูเขาหยวนเจียเจี้ย เมืองจางเจียเจี้ย ในอุทยานเขาอู่หลิงหยวน(อุทยานป่าไม้ แห่งแรกของเมืองจีน ในปี 1982) ลิฟท์ดังกล่าวได้รับการบันทึกว่าเป็นลิฟท์กลางแจ้งที่สูงที่สุด หนักที่สุดในโลก และเร็วที่สุดในโลกที่มีการบรรทุกมากที่สุด ดังกล่าวเป็นลิฟท์ที่นำผู้ที่โดยสารขึ้นไปจุดสูงสุดของภูเขาที่มีความสูงประมาณ 1,070 ฟุต(330 เมตร) จากพื้นดิน สามารถมองเห็นวิวในมุมกว้างสุดหูลูกตา หากแต่อนาคตของลิฟท์แก้วดังกล่าวยังไม่แน่นอนว่าจะอยู่หรือไป เพราะหลายฝ่ายต่างออกมาด่า ว่าลิฟท์ดังกล่าวเป็นสาเหตุของปัญหาสิ่งแวดล้อม ทำให้ทัศนียภาพรอบนอกเสียไป เพราะอุทยานดังกล่าวขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติเมื่อปี ค.ศ.1992 ซึ่งควรปกป้องไม่ใช่ทำลายหรือนำสิ่งก่อสร้างของมนุษย์เอามาไว้ในสถานที่ดังกล่าว

แผนที่

View ลิฟท์แก้วไป่หลงเทียนที in a larger map

สะพานเทียนเสี้ยตี้อี้เฉียว Tian xia di yi qiao จีน China






สะพานเทียนเสี้ยตี้อี้เฉียว (Tian xia di yi qiao) บางคนแปลว่าสะพานหนึ่งในใต้หล้า บ้างก็แปลว่าสะพานใต้ฟ้าอันดับ1 มีทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง บนสะพานจะมีลูกกุญแจอยู่เต็มไปหมด เป็นความเชื่อของคนหนุ่มคนสาวเอากุญแจไปคล้องไว้ที่สูงๆจะได้ไม่มีใครสามารถ พรากคู่รักให้จากกันได้ บางคนก็ทิ้งสู่หุบเหวเบื้องล่าง ก็ให้ความหมายเดียวกันว่าเราจะไม่พรากจากกันตราบชั่วนิรันดร์ โฉมหน้าสะพานเป็นสะพานหินเชื่อมระหว่างเขา 2 ลูก ซึ่งเป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ

แผนที่

View สะพานเทียนเสี้ยตี้อี้เฉียว Tian xia di yi qiao in a larger map

วันพฤหัสบดีที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2554

หินเดินได้ Sailing Stones สหรัฐอเมริกา United States of America








"สูงขึ้นไปบนเทือกเขาเชียรา มีสถานที่แห่งหนึ่ง เป็นที่มาของปริศนาหินเดินได้ในตอนกลางคืน ในอดีตนั้นคงจะมีผู้บุกเบิก มาพานพบกับทะเลสาบแห้งกรังหรือ "พลาย่า" ซึ่งสูง จากระดับน้ำทะเล เกือบ 1200 เมตร ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ เป็นวนอุทยานหุบผามรณะแห่งชาติ "เรสแทรค พลาย่า" คือที่ซึ่งมีรอย คดเคี้ยวของทางเดินของหิน ที่เป็นสิ่งดึงดูดใจนักท่องเที่ยวมากที่สุด"

ตามความเชื่อดั้งเดิมเชื่อว่า หินเหล่านี้เคลื่อนไปได้ เพราะน้ำแข็งจะจับหินเป็นแผ่นขนาดใหญ่ เมื่อมีลมพัด หินทั้งกลุ่มก็จะถูกดันให้เคลื่อนไป สมมติฐานใหม่เชื่อว่า น้ำและลมเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้หินเดิน จากผลการศึกษาของ ดร.โรเบิร์ต พี. ชาร์ป แสดงให้เห็นว่า หินเหล่านี้ จะเคลื่อนที่ในช่วงพื้นดินอ่อนยุ่ยแทนที่จะเป็น ช่วงที่พื้นดินแห้งแข็งด้วยเกล็ดน้ำแข็ง ทะเลสาบตื้นๆ เช่นนี้ มีฝั่งด้านหนึ่งซึ่งสูงกว่า หรือเป็นหน้าผากั้นเอาไว้ ในฤดูหนาวเมื่อน้ำในทะเลสาบแข็งตัว จะยึดบรรดาก้อนหินขนาดต่างๆ กันไว้ ในขณะที่น้ำแข็งตัวจะเกิดการขยายตัวดันเอาก้อนหินให้เคลื่อนที่ เมื่อถึงเวลาที่น้ำแข็งละลายก็จะทิ้งก้อนหินในระยะต่างๆ กัน
Sailing Stones เป็น 1 ใน ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่ยังคงเป็น ปริศนา ที่เกิดขึ้นที่ อุทยานแห่งชาติเดท วัลลี่ย์ (Death Valley National Park) ในรัฐแคลิฟอร์เนีย (California) ประเทศ สหรัฐอเมริกา ส่งที่พบก็คือ จะพบร่องรอยการเคลื่อนที่ของก้อนหิน ที่ทิ้งไว้บนดินเหนียวที่แห้งเป็นทางยาว โดยปรากฏการณ์ธรรมชาติ นี้จะเกิดขึ้นทุก 2 - 3 ปี ครั้ง และหินบางก้อนก็ใช้เวลากว่า 3 - 4 ปีในการเคลื่อนที่

เรซ แทรค พลาย่า เป็นแอ่งทะเลสาบที่ค่อนข้างราบและแห้งแล้ง มีความยาวในแนวเหนือ-ใต้ประมาณ 4 กิโลเมตร และกว้างในแนวตะวันออก-ตะวันตกประมาณ 2 กิโลเมตร มีลักษณะพื้นผิวเป็นระแหงโคลน (mud cracks) ส่วนมากประกอบด้วยตะกอนขนาดทรายแป้ง (silt) และดินเหนียว (clay)
สภาพ ภูมิอากาศค่อนข้างแห้งแล้ง มีปริมาณน้ำฝนเพียงสองนิ้วต่อปี แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ฝนตก น้ำปริมาณมากจะไหลจากภูเขาสูงชันที่อยู่ล้อมรอบเรซแทรค พลาย่าลงมาปกคลุมพื้นที่แอ่งจนกลายเป็นทะเลสาบตื้น ครอบคลุมเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งขณะนั้นบริเวณพื้นแอ่งจะเต็มไปด้วยดินเหนียวที่เหลวและอ่อนนุ่ม
จาก ลักษณะรูปร่างของร่องรอยการไถลของหินนั้นบ่งบอกได้ว่าหินก้อนนั้นต้อง เคลื่อนที่ในช่วงที่พื้นของเรซแทรค พลาย่านั้นถูกปกคลุมด้วยดินเหนียวอ่อนนุ่ม ถ้าเป็นฝีมือของคนหรือสัตว์จะต้องมีร่องรอยของการเหยียบย่ำรบกวนชั้นดิน เหนียวด้วย แต่ในบริเวณดังกล่าวไม่ปรากฏหลักฐานร่องรอยจากคนหรือสัตว์ที่จะช่วยให้หิน เคลื่อนที่เลย มีเพียงร่องรอยการไถลของหินเท่านั้นจะเห็นว่า หินทุกก้อน ไม่มีร่องรอย ของการเข้าไปรบกวน หรือทำการเคลื่ยนย้ายโดยคน หรือสัตว์ เพราะไม่มี รอยเท้า และพื้นที่ก็กว้าง เกินกว่าจะใช้ไม้หรือวัตถุเขี่ยถึง


สมมุติฐานของ การเกิด ปรากฏการณ์ธรรมชาติ หินเดินได้

  • ทาง สมมุติฐาน อ้างว่าเกิดจาก ลม ตัวการที่นิยมนำมาใช้อธิบายปรากฎการณ์นี้ก็คือ ลม โดยส่วนมากลมที่พัดผ่านบริเวณนี้จะมีทิศทางพัดจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ไปยัง ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และร่องรอยการไถลของหินก็มีทิศทางขนาดกับทิศทางของลมนี้ด้วย แต่ ก็มีนักวิทยาศาสตร์บางคน ไ้ด้แย้งว่ากระแสลมใน เรซแทรค พลาย่า สามารถทำให้ เดินน้อยกว่า 5 เซ็นติเมตร และ ถ้าต้องการให้ ดินเดินได้เป็นระยะตามที่ปรากฏ จะต้องมีกระแสลมแรงกว่า 145 กิโลเมตร / ชั่วโมง จะเห็นว่าหิน บางก้อนไม่ได้เคลื่อนที่เป็นแนวเส้นตรง ตามกระแสลมเสมอไป แต่นั้นก็อาดจากการที่กระแสลมเปลี่ยนทิศก็เป็นไปได้
  • บางสมมุติฐาน อ้างว่าเกิดจาก น้ำแข็ง คนกลุ่มหนึ่งให้ข้อมูลว่าเคยเห็นเรซแทรค พลาย่าถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งชั้นบางๆ แนวคิดหนึ่งอธิบายว่าเมื่อน้ำรอบก้อนหินแข็งตัวและแต่ต่อมามีลมพัดผ่านผิว ด้านบนของน้ำแข็ง ทำให้แผ่นน้ำแข็งได้ลากก้อนหินนั้นไปด้วย จึงเกิดรอยครูดไถลบนพื้นผิวแอ่ง นักวิจัยบางคนพบร่องรอยไถลของหินหลายก้อนที่สอดคล้องกับแนวคิดนี้ด้วย แต่ อย่างไรก็ตามการเคลื่อนย้ายแผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่นั้นคาดว่าจะต้องมีการ ทิ้งร่องรอยบนพื้นผิวแอ่งในทิศทางอื่นๆ ด้วย แต่ก็ยังไม่พบร่องรอยนั้นและนั้นจึงทำให้มันยังคง เป็น ปริศนา ที่ต้องมีการศึกษาและ หาคำตอบกันอีก ต่อไป

แผนที่

View หินเดินได้ Sailing Stones in a larger map

กองทัพทหารดินเผา สุสานหลวง สุสานฉินชื่อหวง ซีอาน Xian จีน China










"กองทัพทหารดินเผา"        สุสานฉินชื่อหวง : 秦始皇兵馬俑 ฉินชื่อหวงปิงหมาหย่ง แปลว่า หุ่นทหารและม้าของฉินชื่อหวง) คือ ฮวงซุ้ยของจักรพรรดิจีนฉินสื่อหวงแห่งราชวงศ์ฉิน ตั้งอยู่ที่ตำบลหลินถง ห่างจากเมืองซีอาน มณฑลฉ่านซี ประเทศจีน สุสานฉินชื่อหวงได้ค้นพบโดยบังเอิญเมื่อ 29 มีนาคม พ.ศ. 2517 โดยชาวนาในหมู่บ้านซีหยาง ชื่อ หยางจื้อฟา ในขณะที่ขุดดินเพื่อทำบ่อน้ำ บริเวณเชิงเขาหลีซาน ห่างจากตัวเมืองซีอาน ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 35 กม. โดยในระหว่างที่ขุดนั้น ก็บังเอิญพบกับซากของทหารดินเผา ที่ทราบภายหลังว่ามีอายุมากกว่า 2,000 ปี ปัจจุบันรัฐบาลจีนขุดค้นพบวัตถุโบราณที่เป็นกองทัพทหารดินเผา สรรพาวุธ รถม้าและม้าศึก จำนวนทั้งสิ้นกว่า 7,400 ชิ้น ภายในบริเวณพื้นที่หลุมสุสานกว่า 25,000 ตร.ม. มีการคาดคะเนว่าอาณาเขตของสุสานฉินชื่อหวงจะมีพื้นที่มากกว่า 2,180 ตร.กม.สุสานฉินชื่อหวงได้รับการคัดเลือกให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี พ.ศ. 2530สุสานฉินชื่อหวงเริ่มก่อสร้างในสมัยฉินชื่อหวง ใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 38 ปี ตั้งแต่ปี 246 - 208 ก่อนคริสตกาล ซึ่งอาณาเขตพื้นที่ของสุสานรวมทั้งสิ้น 2,180 ตร.กม. แบ่งออกเป็นพระราชฐานชั้นในและพระราชฐานชั้นนอก ภายในสุสานใช้บรรจุพระบรมศพของฉินชื่อหวง ทรัพย์สมบัติต่าง ๆ ตลอดจนกองกำลังทหาร นางสนมและนางกำนัล รถม้าและขุนพลทหาร จำนวนมาก เพื่อเป็นตัวแทนของข้าราชบริพารในการร่วมเดินทางไปยังปรโลกของฉินชื่อหวง โครงสร้างและสถาปัตยกรรมโดยรวมของสุสาน มีพื้นที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความลึกเฉลี่ย 35 เมตร กว้าง 145 เมตร และ ยาว 170 เมตร สำหรับห้องบรรจุพระบรมศพอยู่จุดกึ่งกลางของสุสาน มีความสูง 15 เมตร มีขนาดพื้นที่และความใหญ่โตมโหฬารราวกับสนามฟุตบอล สำหรับภายใน ในส่วนที่ก่อสร้างจากหินนั้นยังคงได้รับการปิดผนึกอย่างดีโดยคงสภาพเดิมเอา ไว้ และไม่เคยผ่านการขุดและรื้อทำลายมาก่อน โดยโครงสร้างของสุสานดังกล่าว มีรูปแบบโครงสร้างและการจัดสร้างที่มีความสลับซับซ้อน ขนาดของสุสานมีขนาดมหึมา ยิ่งใหญ่สมพระเกียรติของจักรพรรดิจีนผู้รวบรวมประเทศจีนให้เป็นปึกแผ่น

ดูแบบ 360 องศา
http://www.world-heritage-tour.org/asia/china/army-of-terracotta/main-pit/sphere-flash.html

แผนที่

View กองทัพทหารดินเผา สุสานฉินชื่อหวง in a larger map

อุทยานจางเจียเจี้ย zhangjiajie จีน China





อุทยานจางเจียเจี้ย (张家界) (zhangjiajie)
  ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลหูหนาน ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อปี ค.ศ. 1982 และได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกธรรมชาติในปี ค.ศ. 1992 ที่มีเนื้อที่กว่า 369 ตารางกิโลเมตร ท่านสามารถนั่งกระเช้าลอยฟ้าสู่ “เขาสิงโตเหลือง (หวงซือจ้าย)” ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดและมีเนื้อที่กว่า 83,000 ไร่และสูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,300 เมตร ที่เขาสิงโตเหลืองจะมีจุดชมวิวที่เรียงรายลดหลั่นไปตามแนวหน้าผา นับเป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติอีกแห่งหนึ่งของจีน ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับ ภาพของยอดเขาวงกตเทียมเมฆ “จางเจียเจี้ย” ที่มียอดเขาสูงนับไม่ถ้วนโผล่ขึ้นมาซึ่งเขาบางลูกมีลักษณะคล้ายบอนไซ บางลูกมีรูปร่างเหมือนดาบเล่มมหึมาปักอยู่ทั่วไป คุณจะได้ชมยอดเขาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ยอดเขาประตูสาวพรหมจรรย์ ยอดเขาประตูศักดิ์สิทธิ์ ยอดเขาหนังสือสวรรค์ เขาเสาเข็มมหัศจรรย์แห่งท้องสมุทร เขาเสาสวรรค์แห่งทิศใต้ ฯลฯ แล้วเราจะได้ตามรอยและสัมผัสกับความงดงามของสถานที่ในการถ่ายทำภาพยนตร์ เรื่อง อวตาร (Avatar) ที่เป็นฉากส่วนใหญ่ในเรื่องถ่ายจากอุทยานจางเจียเจี้ย ยอดเขาหวงซือจ้าย เป็นจุดท่องเที่ยวยอดเขาที่สุด คุณจะได้เห็นภาพของยอดเขานับร้อยเหล่านี้ถูกคลอเคลียด้วยหมอกบางๆ นับเป็นความสวยงามที่สุดแสนจะพรรณนากับทิวทัศน์ที่คุณจะได้สัมผัสใน เบื้องหน้า ซึ่งมีผู้คนไม่น้อยเปรียบเปรยว่าความงดงามดังกล่าวราวกับอยู่ในแดนสวรรค์ ถ้าหากมาถึงจางเจียเจี้ยแล้วไม่ขึ้นยอดเขาหวงซือจ้ายก็เหมือนกับว่ายังมาไม่ ถึง



เทียนเหมินซาน 天门山   เขาเหมินซานตั้ง อยู่ในมณฑลหูหนาน ซื่งในอดีต เทือกเขาแห่งนี้ถูกเรียกว่า "ภูเขาหวินเมิ้งซานหรือซงเหลียวซาน" และในต่อมาจึงเปลี่ยนชื่อเป็น เขาเทียนเหมินซาน และสาเหตุที่เรียกว่าเทียนเหมินซานเพราะว่า ภูเขาแห่งนี้ได้เกิดระเบิดขึ้นเอง โดยธรรมชาติ จนกลายเป็นถ้ำหรือ ถ้ำประตูสวรรค์เทียนเหมินซาน ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ของภูเขาที่มีความงดงามที่สุดในประเทศจีน ประตูนี้มีความสูง 131.5 เมตร ความกว้าง 57 เมตร ความลึก 60 เมตร
การเดินทาง 
   นักท่องเที่ยวจะต้องนั่งกระเช้าจากตัวเมืองจางเจียเจี้ยที่มีความยาวที่สุด ในโลก คือ 7,455 เมตร โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาที และจัดได้ว่าเป็นกระเช้าแห่งนี้เป็นกระเช้าที่มีความทันสมัยมากที่สุด
การท่องเที่ยวเทียนเหมินซาน
    คือการที่นักท่องเที่ยวได้มีโอกาส เดินชมทัศนียภาพทื่สวยงามพร้อมกับ ทางที่สามารถลัดเลาะริมหน้าผา เพื่อชมความสวยงามของทะเลภูเขาที่มีรูปร่างต่างๆแปลกตา บนเขาเทียนเหมินซานนอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม แล้ว ยังจะเป็นที่ตั้ง ของวัดเจ้าแม่กวนอิมซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ของคนชาวจีน ทำให้ในแต่ละวัน วัดแห่งนี้ ได้มีนักท่องเที่ยวหลั่งใหล เข้ามากราบไหว้เป็นจำนวนมาก เพราะเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ ของเจ้าแม่กวนอิม

แผนที่

View อุทยานจางเจียเจี้ย zhangjiajie in a larger map

yengo ad

BumQ